เทศน์เช้า

เทศน์เช้า

๑๓ พ.ค. ๒๕๖o

 

เทศน์เช้า วันที่ ๑๓ พฤษภาคม ๒๕๖๐
พระอาจารย์สงบ มนสฺสนฺโต

ณ วัดป่าสันติพุทธาราม (วัดป่าเขาแดงใหญ่) ต.หนองกวาง อ.โพธาราม จ.ราชบุรี

 

ตั้งใจฟังธรรมะนะ ฟังธรรมๆ ให้จิตใจมันแข็งแรงไงถ้าจิตใจมันแข็งแรง จิตใจมันต้องการธรรมะ ธรรมะคืออะไร ธรรมะคือสัจธรรมสัจธรรมคือความจริง ถ้าความจริง ชีวิตของเรา เราเกิดมาจริงตามสมมุติๆ เพราะชีวิตมันมีอายุขัย คำว่า "สมมุติๆ" มันคืออายุขัย อายุขัยของมัน มันมีเกิด มันต้องมีดับ มันต้องมีจบสิ้นน่ะ ทีนี้การจบสิ้น จบสิ้นแล้วเราก็คิดว่ามันจบสิ้นไงเวลาพอจบสิ้นแล้วบอกภพชาติมันไม่มี มีอยู่ชาตินี้ชาติเดียวแหละชาติต่อไปมันไม่มี

ถ้าชาติต่อไปมันไม่มีนะ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเกิดมาได้อย่างไรเวลาเป็นพระโพธิสัตว์ ๔อสงไขย ๘อสงไขย ๑๖อสงไขย การสร้างสมบุญญาธิการอันนี้เพราะการสร้างสมบุญญาธิการอันนี้มันทำให้จิตใจยิ่งใหญ่จิตใจยิ่งใหญ่มากนะ ดูสิเวลาหลวงตาท่านเทศน์ เราฟังแล้วสะเทือนใจทุกที มันเป็นธรรมไง เวลาเป็นสัตว์ เป็นหัวหน้าฝูง เป็นหัวหน้าฝูงต้องพาฝูงสัตว์เพราะอะไรเพราะท่านมีการศึกษาไงศึกษาก็ศึกษาพระไตรปิฎกศึกษาพุทธประวัติ ศึกษาอดีตชาติขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เวลาท่านพาฝูงลิงเพื่อหลบหลีกการไล่ล่าของเขา นี่เสียสละชีวิตเลยนะ เราจะไปทางนี้นะ เราจะล่อนายพรานไปทางนี้ แล้วให้ฝูงไปทางนี้นะ แล้วเวลาถ้ายิง ให้ยิงเราก่อน คือท่านเสียสละชีวิต จะตายก่อนน่ะ

การทำอย่างนั้น การเสียสละอย่างนั้นบ่อยครั้งเข้าๆพันธุกรรมของจิต พันธุกรรมของจิตมันยิ่งใหญ่ไง มันยิ่งใหญ่ เป็นผู้เสียสละ แม้แต่ชีวิตเขายังเสียสละได้ แล้วเวลามาเกิดเป็นมนุษย์ทำไมเราจะเสียสละไม่ได้ สิ่งที่กระทบกระเทือนหัวใจมันเสียสละได้ทั้งนั้นน่ะ ความเสียสละ จิตใจมันยิ่งใหญ่มันถึงเสียสละได้นะ ถ้าจิตใจมันคับแคบมันเสียสละไม่ได้หรอกมันรักษาหน้ารักษาตาไงรักษาหน้ารักษาตานั่นน่ะคนขี้ขลาดเวลาขี้ขลาดมันจะทำลายเขาก่อนไง มันกลัวเขาจะทำลายตัวเอง มันไปทำลายเขาๆเพราะความขี้ขลาด แต่ถ้าคนกล้าหาญ เขาคุมสถานการณ์ได้หมด นี่ความยิ่งใหญ่ของหัวใจนี้ไง

เวลาที่ว่าภพชาติไม่มีๆ...ไม่มีแล้ว๔ อสงไขย ๘อสงไขย ๑๖อสงไขย มันมาได้อย่างไรเพราะว่าความอสงไขย ดูสิองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านพูดนะเราเกิดมาเราวาสนาน้อยชีวิตของเราก็๘๐ ปีเท่านั้น๘๐ ปีเพราะอะไร เพราะ ๔อสงไขยไงเวลาองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระกัสสปะพระพุทธเจ้า๘๐๐๐๐ ปี ๑๖ อสงไขยไง ๔ อสงไขย ๘ อสงไขย ๑๖ อสงไขย คิดดูสิ ๔ อสงไขย นั้นเขา ๘ อสงไขยเท่าตัว นั่น ๑๖ อสงไขย

คำว่า"๑๖ อสงไขย" นับไม่ได้ การเวียนว่ายตายเกิดจนนับไม่ได้คิดดูสิว่ามันสร้างสมมาแค่ไหน สละแล้วสละอีกๆ เพราะเขาสละมา มันต้องมีการกระทำทั้งนั้นพระพุทธศาสนาไม่มีของฟรี ใครทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว ใครทำความชั่วความชั่วของเขา มันจะหมกมุ่นอย่างไร ทำไว้ที่ไหนก็ความชั่วของเขา ถ้าเป็นความดีๆทำที่ไหนก็เป็นความดีของเขานี่ทำความดีไง

นี้ความดีหัวใจมันยิ่งใหญ่ใช่ไหมฟังธรรมๆ เพื่อตอกย้ำหัวใจของเรา ที่เรามาเสียสละของเรา เสียสละคือเสียสละทานของเราเพื่ออะไร เพื่อบำรุงหัวใจไง การเสียสละทานสิ่งที่เราทำจิตใจมันมีการเคลื่อนไหวไงไม่อย่างนั้นมันหมักหมมนะดูสิ เวลาคนทางโลกอยากมีสุขภาพร่างกายแข็งแรงต้องออกกำลังกาย การออกกำลังกายสุขภาพแข็งแรงนะ 

นี่ก็เหมือนกันหัวใจของเราที่มันจะมีที่พึ่งอาศัย มันได้ทำอะไร มันได้ทำไหม ถ้ามันได้ทำ การเสียสละนี้ จิตใจมันทำคือเจตนาไงคือความคิด ถ้าไม่มีความคิดไม่มีความตั้งใจ จะทำบุญได้ไหม พรุ่งนี้จะตักบาตรเตรียมตัวตั้งแต่วันนี้แล้วการเตรียมตัวอย่างนี้มันได้บริหารมันไงให้บริหารหัวใจของเราอย่าให้มันหมักหมมกับกิเลสไง

พอกิเลสมันครอบงำไว้ไง นู่นก็ไม่ได้ นี่ก็ไม่ได้ ของฉันทั้งนั้น ไปไหนก็ไม่ได้ แล้วไม่ได้ก็หมักหมมน้ำเน่าไง พอมันหมักหมมไว้แล้วมันก็เสียเสียแล้วทีนี้พอจิตใจมันเศร้าหมองแล้วเศร้าหมองมันก็ยิ่งกดดันกดดันก็ยิ่งคิดมากขึ้นไปคิดมากมันทับถมลงไปเรื่อยๆ 

แหวกมันออก เปิดทางออก เราจะเสียสละ เราจะทำบุญกุศลของเรา ทีนี้ทำบุญกุศลของเรามันก็ต้องทำที่เราลงใจไง ถ้าไม่ลงใจ กิเลสมันต่อต้านนะ"พระก็มีมือมีเท้า ทำไมพระไม่ทำไร่ไถนาทำไมพระต้องมาขอเขากินล่ะทำไมต้องมาขอเรากินด้วยพระก็หากินเอง" นี่กิเลสมันคิดแล้ว

พระเขาทำได้ดีกว่าเอ็งอีก ถ้าเขาจะทำนะ ดูพระ ดูสิเวลามีการก่อสร้าง ดูสิกรรมกรเขากินวันละ ๓ มื้อเวลาเขาผสมปูน เทปูน พระฉันมื้อเดียวนะพระเทได้มากกว่าเขาพระหิ้วปูนได้มากกว่าเขา ๓เท่า ๔ เท่า ไอ้พวกกรรมกรแบกหามทำงานวัดเจอกรรมฐานมันงงฉันข้าวมื้อเดียวหิ้วปูนนี่ปลิวตลอด ทำอะไรทำได้ทั้งนั้นเขาทำดีกว่าเอ็งอีก

ถ้าบริหาร บริหารทางใจมันยังบริหารไม่ได้บริหารอย่างนั้นน่ะ แต่เขาเห็นภัยในวัฏสงสาร เขาเห็นภัยในการเกิด การแก่การเจ็บ การตาย จะมั่งมีศรีสุขขนาดไหน องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจะเป็นถึงกษัตริย์ ท่านยังละสิ่งนั้นมา

กษัตริย์สมัยพุทธกาลนะ เวลาสละราชบัลลังก์แล้วมาบวชพระ พอบวชเสร็จแล้ว"สุขหนอ สุขหนอฐ อยู่โคนไม้ บ่นแล้วบ่นอีกว่า "สุขหนอสุขหนอ" แล้วเป็นกษัตริย์ไม่สุขหรือ เป็นกษัตริย์มันก็ต้องมีความสุขสิ ปกครองประชาชน ยิ่งใหญ่นัก นี่มีแต่ความทุกข์ความยาก 

พอเสร็จแล้วพระที่ได้ยินได้ฟังบอกว่า พระภัททิยะคงคิดถึงราชบัลลังก์ บ่นว่าสุขหนอ สุขหนอ คงอยากจะสึก ไปฟ้ององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเรียกประชุมเลย"เธอพูดอย่างนั้นจริงๆ หรือ"

จริง

แล้วทำไมเธอถึงพูดอย่างนั้น

ก็มันสุขจริงๆ ก็มันสุขจริงๆ มันวิมุตติสุข มันมีความสุข อู้ฮู! รื่นเริง อยู่ที่โคนไม้ ผมรื่นเริงมาก

แล้วเวลาเป็นกษัตริย์ไม่มีความสุขหรือ

อู้ฮู! เครียด งานล้นมือ

ทำไมจะทำไม่ได้ ทำได้ทั้งนั้นน่ะ นี่เราจะบอกว่า พระมีมือมีเท้าทำไมไม่ทำมาหากินทำไมถึงมาขอชาวบ้านเขากิน

เขาเคารพองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า สมณสารูปความเป็นสมณะ ความเป็นสมณะนะธรรมและวินัยบวชตั้งแต่เป็นคฤหัสถ์ พอเป็นพระคฤหัสถ์เรามีสิทธิเสรีภาพในการทำมาหากินทั้งนั้นน่ะ เราบวชเป็นพระแล้วนะ"เธอบวชเป็นพระแล้วห้ามดำรงชีพแบบฆราวาส" ฆราวาสเขาทำมาหากิน เขามีการซื้อการขายพระห้ามหมดเลย พระห้ามซื้อ ห้ามขายห้ามแลก ห้ามเปลี่ยน ห้ามทั้งนั้น พระห้ามทำทั้งนั้น พระห้ามทำอาหารให้สุกด้วยตัวเองแต่ปรุงได้ ปรุงรสได้ แต่ของดิบทำให้สุกไม่ได้ ดำรงชีพแบบฆราวาสพระห้ามทำเด็ดขาด 

เขาเคารพองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ไม่ใช่เขาไม่มีมือมีเท้าทำมาหากินไม่เป็นนี่เวลากิเลสมันคิด คิดอย่างนี้เวลามันมองพระ มันมองพระอย่างนี้ แต่เวลาครูบาอาจารย์ของเราองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเวลาท่านตรัสรู้ธรรมขึ้นมาแล้ว ใครๆก็อยากอังคาสอังคาสคือถวายอาหารแก่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าด้วยมือของท่านเอง ใครทำแล้วได้บุญกุศล แย่งชิงกันนะ เพื่อไปอังคาส เขาก็บอกว่า โอ้โฮ! เพราะองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าป็นองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ใครๆ ก็อยากจะทำบุญกับองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า 

องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านบอกไม่ใช่ ไม่ใช่เราทำของเรามาเอง คือท่านสละมา ๔อสงไขย ท่านทำมาขนาดไหน สละแม้แต่ลูก สละแม้แต่เมีย สละแม้แต่ราชบัลลังก์สละให้เขาหมดใครอยากได้อะไรขอ ให้ๆๆๆ ท่านให้เขาทั้งนั้น

แล้วเวลาท่านตรัสรู้ธรรมขึ้นมาแล้วที่คนมาถวายถวายเพราะท่านทำของท่านมา แต่เราไปเห็นว่าเพราะเป็นองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามาไงดูสิ สมัยพุทธกาล เวลาพระอรหันต์ ดูสิพระสีวลีร่ำรวยมหาศาล ใครๆก็อยากทำบุญกับพระสีวลี ดูสิพระอรหันต์ที่ว่าฉันข้าวไม่เคยอิ่มเลย นั่นก็เป็นพระอรหันต์เหมือนกัน ทำไมฉันข้าวไม่เคยอิ่มเหมือนกันเลยนี่ไง พระอรหันต์เหมือนกันทำไมมันไม่เหมือนกันล่ะ

ไม่เหมือนกัน เขาก็ไปถามองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ถ้าองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านยังมีพระชนม์ชีพอยู่ใครมีความลังเลสงสัยสิ่งใดก็จะไปถามองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าอนาคตังสญาณ จะอธิบายหมดเลย เมื่อชาตินั้นๆๆ เขาทำอย่างนั้น แล้วความคิดเศษเหลือทิ้งมันยังมาอยู่นี่ จนชาติปัจจุบันนี้มันก็ยังคิดอย่างนี้มันก็ยังทำอย่างนี้ แล้วถ้ามันทำอย่างนั้น

แต่เวลาถ้ามันแก้ไขๆถ้าศึกษาพุทธประวัติจะเป็นอย่างนี้ เราศึกษาพุทธประวัติเป็นอย่างนี้ปั๊บ เราย้อนกลับมาในปัจจุบันนี้ไงเวลาครูบาอาจารย์ของเรากรรมฐาน ดูหลวงปู่เสาร์หลวงปู่มั่นท่านสอน จริตนิสัยความคิดของเขามันมาจากตรงนี้ เวลาคิดเวลาเรานั่งสมาธิ เรานั่งปฏิบัติ หายใจเข้านึกพุท หายออกนึกโธ สายบุญสายกรรมไง ดูสิ เวลาไอ้พวกหลอกลวงนี่ชอบๆๆถูกใจ เพราะคนเหลวไหลมันเยอะ วุฒิภาวะที่อ่อนแอมันมาก เวลาคนที่มีวุฒิภาวะที่มีสติปัญญามันน้อย ถ้ามันน้อยขึ้นมา ดูสิเวลาหลวงปู่เสาร์ หลวงปู่มั่นท่านฝึกหัดปฏิบัติของท่านถ้าใครที่ปฏิบัติได้นะ หลวงตาท่านเล่าให้ฟังประจำ ท่านจะถามเลย จิตเป็นอย่างไรๆเพราะจิตเป็นอย่างไรจะแก้ไขให้ตลอดเวลาไง แต่ถ้าใครยังปฏิบัติไม่ได้ ท่านก็ให้ฝึกหัด ให้มีข้อวัตร ให้มีเครื่องอยู่นะเพราะอะไรเพราะหัวใจมันสร้างสมมาอย่างไรไง 

เวลาย้อนกลับไปๆย้อนกลับไปเวลาคนที่ประพฤติปฏิบัติมันมาจากตรงนี้ มันมาจากหัวใจคนที่สร้างสมมา ถ้ามันมาจากหัวใจคนที่สร้างสมมา มันก็เหมือนเกิดมาเป็นเด็ก มันมีเชาวน์มีปัญญามันมีความคิดมันมีไอเดีย ไอ้พวกนี้มันมีของเดิมมันมาทั้งนั้นน่ะ เพราะมันมีของเดิมมันมา มันถึงมีวุฒิภาวะอย่างนี้ไง

ถ้ามันไม่มีของเดิมมันมา ถ้าของเดิมมันทำในทางลบด้วย ของเดิมที่ลบๆ พ่อแม่ปวดหัว มันจะล้วงกระเป๋ามันจะเอาทุกอย่าง ไม่รักๆแล้วมันจะเอาให้ได้ จะเอาชีวิตใช่ไหม จะเอาชีวิตหรือ จะให้พ่อแม่สละชีวิตให้ใช่ไหมแต่ถ้าพูดอย่างนี้ปั๊บ ถ้าเป็นวิทยาศาสตร์มันก็เป็นชาติปัจจุบันก็เห็นพ่อแม่ลูก ทำไมคุยกันไม่รู้เรื่องแต่ถ้าไปดูเรื่องเวรเรื่องกรรมอ๋อ! เขาเคยทำกันมา

นี่ก็เหมือนกัน ในชาติปัจจุบันนี้จะเอาชีวิตใช่ไหม จะทำลายกันใช่ไหม พอทำลายกันไปพอชาติต่อไปมันก็กลับไปทำลายกันต่อไง อยู่ในพระไตรปิฎก มันมีบุคคลอยู่ ๒ คนเขาผลัดกันฆ่ากันมาตลอดผลัดกันฆ่า เป็นเพื่อนกันนะ ไปเกิดชาติไหนก็เป็นบัดดี้ รักกันมาก แล้วไปไหนไปด้วยกันในสมัยพุทธกาล เขาเดินทางมาเสร็จแล้วก็พักสมัยโบราณก็เดินทางในป่าในเขาใช่ไหมเขาพักนอนด้วยกัน ถึงเวลาพอดึกดื่นขึ้นมา ไอ้คนที่ถึงวาระมันลุกขึ้นมาแล้ว มันจะฆ่าเพื่อนมัน

องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามาด้วยฤทธิ์นะ บอกอย่าเพิ่งๆ อย่าทำอย่างนั้น ให้ปลุกเพื่อนตื่นขึ้นมา แล้วก็ปลุกเพื่อนให้ตื่นขึ้นมา พอตื่นขึ้นมา ท่านเทศนาว่าการนะ พวกเธอทำกันอย่างนี้มากี่ภพกี่ชาติแล้วแล้วพวกเธอก็จะมาทำกันต่อไปอย่างนี้ มันเป็นบาปเป็นกรรมทั้งนั้นน่ะให้อภัยต่อกันให้สาธุ ให้อภัยต่อกัน ชาติปัจจุบันนี้ให้อภัยต่อกัน เวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวรมันมีเวรมีกรรมต่อกัน มันอยู่ในจิตใต้สำนึกนั้น ถึงเวลาแล้วมันจะมาล้างมาผลาญกัน ถึงจะเป็นเพื่อนกันรักกันขนาดไหน มันก็จะฆ่าจะแกงกันอยู่อย่างนี้ แล้วทุกภพทุกชาติมาเธอทำแบบนี้มากี่ภพกี่ชาติแล้ว เธอทำแบบนี้กันมาเธอทำ เมื่อชาติที่แล้วไอ้คนที่นอนหลับอยู่ก็ฆ่าคนนั้นมา ไอ้ชาตินี้ ไอ้คนนี้มันจะมาฆ่ากลับ เธอทำอย่างนี้มากี่ภพกี่ชาติ เธอทำอย่างนี้มากี่ภพกี่ชาติแล้ว ให้อภัยต่อกันเทศนาว่าการมีความเข้าใจฟังธรรมะขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้วให้อภัยต่อกัน เห็นไหมเวรย่อยระงับด้วยการไม่จองเวรไง

แต่เราระงับไม่ได้ มันเจ็บปวด คนที่จะระงับได้มันต้องมีจิตใจที่ยิ่งใหญ่ จิตใจที่มาฟังธรรมนี่ไง ถ้าเรามาฟังธรรม ธรรมะขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เราเคยทำเขาไว้แล้ว เราไม่เคยทำอะไรใครเลย แล้วเขาก็จะรังแกแต่เราๆ เราไม่ได้ทำอะไรไว้เลยมีแต่คนรังแกๆ

เวลาเอ็งทำ เอ็งไม่เห็นไง เวลาเอ็งทำเขา เอ็งดีใจไงเมื่อก่อนเอ็งทำเขาได้ เอ็งชอบใจไง พอถึงเวลานี้เอ็งจะโดนเขาทำบ้างเอ็งก็โวยวายไงโอ๋ย! ธรรมะไม่เป็นของจริงดูสิ เราสะอาดบริสุทธิ์ โอ้โฮ! มีแต่คนแกล้งตลอดเลยโอ้โฮ! สุดๆธรรมะไม่จริงธรรมะไม่จริงแต่มันไม่เห็นเบื้องหลังที่มันทำเขามา ถ้ามันไม่เห็นเบื้องหลังที่มันทำเขามา นี่อนาคตังสญาณขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า 

ฉะนั้นเวลาองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านถึงสอนไง ให้เรามีสติมีปัญญา แล้วให้อภัยเขาเสียให้อภัยเขาไปถ้าให้อภัยได้ถ้าให้อภัยไม่ได้ก็กดไว้ก่อนกัดฟันไว้ก่อนถ้าทำไปนะ ในผลปัจจุบันมันก็มีผลกระทบแล้ว แล้วถ้ามันเป็นกิเลส กิเลสมันก็บอกโอ้โฮ! เราไม่มีศักดิ์ศรี เราเป็นคนแพ้คน แต่ถ้ามันมีธรรมนะ โอ้โฮ! เราให้อภัย เราทำบุญยิ่งใหญ่เห็นไหม เขตอภัยทาน ไปตามวัดตามวาเขตอภัยทานดูสิ ในป่าในเขา เขาเจอสัตว์ เขาล่ากันเลย พอไปในเขตวัด เขาเขตอภัยทาน เออ! เขายกให้วัดๆ

นี่ก็เหมือนกัน เขตอภัยทานในใจของเรา เราได้สร้างขอบเขตของเราแล้ว เราได้สร้างหัวใจของเราแล้ว ถ้าเราได้สร้างหัวใจของเรา มีขอบเขตขึ้นมาเรามีอำนาจวาสนาไหม เราเป็นนักปราชญ์ไหม

พระพุทธศาสนาไง "เธอจงมีธรรมเป็นที่พึ่งเถิด อย่ามีสิ่งอื่นเป็นที่พึ่งเลย" ถ้าเรามีขอบเขต เขตอภัยทานในหัวใจของเราเรามีที่พึ่งไหมเรามีหัวใจของเราไหม เราทำความสงบของใจของเราได้ไหม สิ่งที่ยิ่งใหญ่มันยิ่งใหญ่ที่นี่ไงทำบุญทำทานมามากน้อยแค่ไหน เวลาเจอกิเลสต้องประพฤติปฏิบัติกันทั้งนั้นน่ะ 

ดูสิพระเจ้าอโศกมหาราช ๘๔๐๐๐ วัด เวลาที่ว่าเป็นญาติศาสนาหรือยัง

ถ้าเป็นญาติศาสนาต้องเอาลูกมาบวชก่อน ถ้าลูกก็สายเลือดไงนี่มันเป็นวิทยาศาสตร์ไงสายเลือดเราเข้าไปค้ำจุนพระศาสนาไงสายเลือดเราเข้าไปดองกับองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไง เราได้เป็นญาติกับศาสนาไง ไอ้นั่นเป็นญาติศาสนาโดยวัฏฏะนะ

แต่ถ้าผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นตถาคตหายใจเข้านึกพุท หายใจออกนึกโธไง เราจะเฝ้าองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ชีวิตเป็นๆนี่ไง ชีวิตเป็นๆเราระลึกถึงไงเวลามันจับต้องได้มันมีความสุขไง 

สุขอื่นใดเท่ากับจิตสงบไม่มีไงพุทธะ ผู้รู้ ผู้ตื่นผู้เบิกบาน ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบานมันอยู่ที่ไหนล่ะไปวัดไปวากันไปวัดไปวาไปทำบุญกุศลก็เพื่อไปสร้างอำนาจวาสนาบารมีให้มันฉลาดขึ้นมาๆเวลามันภาวนาขึ้นมา หายใจเข้านึกพุทหายใจออกนึกโธ เวลามันเป็น เป็นปัจจัตตัง เป็นสันทิฏฐิโกไงมันเป็นสมบัติของใครล่ะ มันเป็นสมบัติของเฉพาะตนไงสมบัติเฉพาะหัวใจดวงนั้นไงเพราะหัวใจดวงนั้นต้องเวียนว่ายตายเกิดในวัฏฏะไงเพราะหัวใจดวงนั้นถ้ามันรู้เท่าทันแล้ว มันถอนอวิชชาไปแล้ว หัวใจดวงนั้นมันรู้เท่าแล้วหัวใจดวงนั้นมันฉลาดแล้วหัวใจดวงนั้นมันไม่ไปอีกแล้ว เพราะมันฉลาด มันมีวิชชา มันไม่ใช่อวิชชาที่ความไม่รู้ เพราะมันรู้ทุกเรื่อง รู้เรื่องคนอื่นหมด แต่ไม่รู้เรื่องของตัวเอง ไม่รู้เรื่องหัวใจของตัวเอง หาหัวใจของตัวเองไม่เจอ 

ถ้าหาหัวใจของตัวเองเจอ นี่มันยิ่งใหญ่ ยิ่งใหญ่อย่างนี้ ทีนี้พอความยิ่งใหญ่ถ้าหัวใจยิ่งใหญ่ หัวใจกว้างขวางนะมันทำสิ่งใดมันเป็นประโยชน์ไปหมดแหละเห็นประโยชน์นะ ครูบาอาจารย์ที่ท่านเป็นธรรมๆท่านเป็นธรรมอย่างนั้น ถ้าเป็นธรรมอย่างนั้น มันจะเป็นประโยชน์ ถ้าเป็นประโยชน์ความรู้สึก สิ่งนี้สำคัญ เราแค่สวัสดี เออ! ถ้าอย่างอื่นเป็นภาระ อย่างอื่นยุ่งมาก เออ! สวัสดีนะ

โธ่! เราอยู่กับหลวงตาเราซึ้งมากนะเวลาใครมาหาท่าน มากราบท่าน ท่านขอบใจนะ"ขอบใจนะที่มาเยี่ยมเยียน" โอ้โฮ! เราฟังแล้วสะอึกเลยใครมาถึง"หลวงตา มากราบ สวัสดี"

เออ! ขอบใจนะ ยังระลึกถึงกัน ยังมากราบมาไหว้ยังมาสวัสดีกัน

ท่านขอบใจนะ นี่ไงเพราะว่าท่านไปไหน เวลาท่านมาทำโครงการช่วยชาติ ท่านบอกว่าไปนี่ไปเอาหัวใจเขา แต่ทางโลกบอกไปเอาตังค์นะเป็นหลายๆหมื่นล้านเลยแต่หลวงตาท่านบอกว่าไปเอาหัวใจเขาให้หัวใจเขารู้จักเสียสละให้หัวใจเขามีเขตอภัยทานให้หัวใจเขายิ่งใหญ่ ให้หัวใจเขายืนของเขาได้ ให้หัวใจเขาพึ่งตัวเองได้ ให้หัวใจเขามันพัฒนาได้ สิ่งที่พัฒนาการมาตรฐานของใจนั้นมันสำคัญธรรมมันอยู่ที่นั่นน่ะ สิ่งอื่นนั้นมันเป็นแค่สัญลักษณ์ทั้งนั้นน่ะ ทุกอย่างที่เราเป็นวัตถุเป็นสัญลักษณ์ทั้งนั้น แต่ความจริงๆ คือหัวใจอันนี้

แล้วหัวใจที่มันมีคุณธรรมอันนั้นมันยิ่งใหญ่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ากราบธรรมอันนั้น กราบธรรมในใจขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เอวัง